หากคุณเป็นคนนึงที่สนใจจะมีธุรกิจของตัวเอง มองหาสิ่งที่น่าจะทำเงินให้คุณได้ แต่ติดที่ยังไม่รู้ว่าอยากทำอะไรดี
วันนี้เรามีทางเลือกที่น่าสนใจมาให้คุณลองดู
ลองอ่าน แผนธุรกิจข้าวนึ่ง ของเรา แล้วให้คุณตัดสินเองว่า ธุรกิจข้าวนึ่งนี้น่าลงทุน คุ้มค่าที่จะลงแรงทำหรือไม่?
.
1.ขายดี คนซื้อเยอะ สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนสมัยนี้
ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบ เวลาที่จะเข้าครัวทำอาหารเองก็ลดลง
คนส่วนใหญ่จึงเลือกวิธีซื้อข้าวสวยและกับข้าวจากตลาดไปกินเป็นมื้อๆ
โดยเฉพาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่คนเดียวหรืออยู่กันในครอบครัวไม่กี่คน
วิธีนี้นอกจากสะดวกแล้ว เมื่อรวมค่าใช้จ่ายการซื้อข้าวนึ่ง 1 มื้อ อาจประหยัดกว่าหุงข้าวทานเองซะอีก
.
2. ไม่ต้องยุ่งยากหาซื้อวัตถุดิบหลายชนิด การเก็บรักษาก็ง่ายกว่า
การทำธุรกิจข้าวนึ่งวัตถุดิบหลักที่ต้องใช้ก็มีแค่ข้าวสาร น้ำ และอุปกรณ์การนึ่ง เท่านั้น
ไม่เหมือนอาหารชนิดอื่นที่มีส่วนประกอบมากมาย กว่าจะซื้อครบก็หมดไปแล้วครึ่งวัน
การเก็บและดูแลข้าวสารก็ง่ายกว่ามาก เมื่อเทียบกับวัตถุดิบพวกเนื้อสัตว์หรือผักสด
.
3. นึ่งทีเดียวขายได้ทั้งวัน ขายสะดวกแค่ยกกล่องโฟมไป
ขั้นตอนการเตรียมจะยุ่งยากแค่ครั้งเดียวคือตอนนึ่งข้าวเท่านั้น
โดยคุณสามารถนึ่งข้าวไว้ทีเดียวจำนวนมากจากสถานที่นึง (อาจจะเป็นที่บ้านหรือโรงงาน)
นึ่งเสร็จแล้วนำใส่กล่องโฟมเก็บความร้อนไว้ เวลาจะขายก็แค่ยกกล่องไปขายที่ตลาดเท่านั้น
ไม่ต้องวุ่นวายย้ายอุปกรณ์กลับไปมา ขายหมดก็แค่ยกกล่องกลับบ้าน ไม่ต้องเก็บล้างอีกรอบให้เหนื่อยแรง
.
4. คำนวนรายรับต่อวันได้ง่ายๆ
รายรับต่อวันคิดจาก จำนวนสินค้า x ราคา
ทันทีที่ปิดร้านคุณสามารถรู้ได้เลยว่าจะมีเงินเท่าไหร่ในกระเป๋า เงินหายเงินเกินก็บอกได้ทันที
การทำบัญชีรายรับ-จ่ายได้ก็สะดวก โอกาสผิดพลาดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
.
5. ธุรกิจข้าวนึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
เมื่อเทียบกับการขายของชนิดอื่น ธุรกิจข้าวนึ่งยังมีคนขายน้อยอยู่
อีกทั้งจำนวนคนซื้อก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามที่บอกไว้ในข้อที่ 1
ดังนั้นการก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจในตอนนี้ จึงเป็นจังหวะเวลาที่ดีมาก
อย่ารอจนมีคนเข้ามาเป็นคู่แข่งเยอะแล้วถึงเริ่ม ถึงวันนั้นอาจจะสายไปซะแล้ว
เมื่อดูข้อดีไปแล้ว คราวนี้เรามาดูข้อควรระวังในการเริ่มธุรกิจข้าวนึ่งกันบ้าง
.
1.ความรู้ต้องแน่น สูตรข้าวต้องเป๊ะ
คนส่วนใหญ่เมื่อได้ไอเดียว่าอยากเริ่มธุรกิจแล้วก็คิดข้ามขั้นไปถึงการขายเลย
โดยไม่ศึกษาหาความรู้ก่อนว่าควรเลือกข้าวลักษณะไหน ขนาดถ้วยนึ่งที่ใช้เท่าไหร่ เทคนิคการนึ่งมีอะไรบ้าง
การเริ่มธุรกิจแบบนี้ก็เหมือนคนลงสนามแข่งแต่ปิดตาไว้ข้างนึง มีโอกาสที่จะสะดุดล้มเจ็บตัวสูงมาก
**เพราะฉนั้นก่อนเริ่มธุรกิจ อย่างแรกคุณต้องทดลองหาสูตรการนึ่งข้าวก่อน**
ใช้อัตราส่วนข้าวต่อน้ำเท่าไหร่ ใช้ข้าวแบบไหน นึ่งนานกี่นาที ทดลองซ้ำจนมั่นใจว่าได้สูตรคงที่
คอยสังเกตและเรียนรู้เทคนิคการนึ่ง นึ่งยังไงข้าวถึงจะฟูเรียงตัวสวย ทำไมข้าวแฉะเฉพาะก้นถ้วย
.
2. เลือกทำเลร้าน สำรวจตลาด
**แนะนำว่าควรเลือกที่ใกล้บริเวณตลาด หอพักหรือย่านอยู่อาศัย**
เพราะคนเหล่านี้มีโอกาสที่จะซื้อข้าวกลับไปกินที่บ้านมากกว่า
ถ้าเป็นทำเลหน้าสำนักงานหรือโรงเรียน แม้ว่าคนอาจจะเยอะจริง
แต่จำนวนคนที่จะมาเป็นลูกค้าเราอาจจะไม่มากเท่าไหร่
คนเหล่านี้มักจะมองอาหารที่กินได้เลยไม่ต้องยุ่งยากเก็บล้างอีกรอบ
.
**ควรเลือกบริเวณที่มีอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทานกับข้าวขายด้วย เช่น พวกอาหารตักๆ หรือแกงถุง **
เพราะถ้ามีแต่ข้าวสวยขาย คนกินก็ไม่รู้จะซื้อไปกินกับอะไร
.
หลังจากเลือกทำเลได้แล้ว ต้องสำรวจตลาดต่อ
แถวที่คุณจะตั้งร้าน คนซื้อนิยมกินข้าวแบบไหน ข้าวขาว? ข้าวหอมมะลิ?
หรือควรเสริมด้วย ข้าวกล้อง มะลิแดง ไรซ์เบอรี่ ให้ลูกค้ามีตัวเลือก เพิ่มโอกาสขายมากขึ้น
.
3. มีพื้นที่ในการเก็บวัตถุดิบและนึ่งข้าว
ทั้งสถานที่เก็บข้าวสาร บริเวณสำหรับนึ่ง และบริเวณเก็บล้างอุปกรณ์ ทั้งหมดนี้ล้วนต้องใช้พื้นที่ทำงานพอสมควร
คุณต้องไม่ลืมหาสถานที่ที่กว้างพอเพื่อรองรับกิจกรรมเหล่านี้
ในระยะแรกอาจเริ่มจากใช้พื้นที่บริเวณหลังบ้านไปก่อน
แล้วเมื่อขายดีกิจการใหญ่โตขึ้นถึงไปเช่าห้องแถวเพื่อทำแบบเต็มตัวก็ได้
.
4. ข้าวที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน คุณภาพคงที่
จะน่าเศร้าแค่ไหนที่คุณอุตส่าห์คิดสูตรข้าวแทบตาย แต่สุดท้ายมาพัง นึ่งไม่สำเร็จเพราะใช้ข้าวไม่ได้มาตรฐาน
ไม่ว่าจะ อายุข้าว ลักษณะเมล็ดข้าว หรือความสะอาด แต่ละถุงแต่ละลอตไม่เหมือนกันสักครั้ง
ดังนั้นการเลือกซื้อข้าวจากโรงงานผลิตที่ควบคุมคุณภาพ ได้มาตรฐานรับรอง
ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี มั่นใจได้ว่าทุกถ้วยที่นึ่งจะได้ข้าวเหมือนกันหมดทุกครั้ง
.
อ่านต่อ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการนึ่งข้าว