ข้าวเหนียว จัดเป็นหนึ่งในอาหารหลักของบ้านเรา นิยมรับประทานกันทั่วทุกภูมิภาคโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ข้าวเหนียวมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น มีความเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบ มีกลิ่นหอม ให้พลังงานสูง นิยมรับประทานคู่กับอาหารทอด ปิ้งย่าง น้ำตกส้มตำ และสามารถนำไปทำอาหารหวานได้ด้วย การเลือกข้าวเหนียวที่มีคุณภาพดีนั้นจะมีเทคนิควิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
วิธีเลือก ข้าวเหนียว คุณภาพเมื่อคุณต้องเลือกด้วยตัวเอง
1.การเลือกพันธุ์ข้าว ข้าวเหนียวแต่ละพันธุ์จะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน เช่นพันธุ์เขี้ยวงู เมื่อนึ่งแล้วจะมีกลิ่นหอมชัดเจน มีความเหนียวเกาะตัวกัน เนื้อสัมผัสนุ่ม ร้านค้านิยมนำไปนึ่งขายเพราะแม้จะเย็นตัวลงก็ยังนุ่มอยู่ หรือพันธุ์สันป่าตองเมื่อนึ่งแล้วจะมีความนุ่มเหนียว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีราคาย่อมเยากว่า ทั้งนี้การเลือกพันธุ์ข้าวเหนียวขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
2.ข้าวใหม่-ข้าวเก่า ความใหม่เก่าของข้าวส่งผลต่อลักษณะของข้าว ทั้งรสชาติ เนื้อสัมผัสและกลิ่น ข้าวใหม่หมายถึงข้าวที่เก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม โดยข้าวใหม่จะมีความนุ่มหอมกว่า ส่วนข้าวเก่าหมายถึงข้าวใหม่ที่เก็บรักษาไว้ยาวนานข้ามปี มียางข้าวน้อย มีความแข็งกว่า หอมน้อยกว่า ซึ่งข้าวแต่ละชนิดเหมาะกับการปรุงอาหารแตกต่างกันไป
3.เมนูอาหารเป็นตัวกำหนดว่าควรจะเลือกข้าวแบบใด เช่น ถ้าต้องการทำข้าวเหนียวมูน ควรจะเลือกข้าวเก่าพันธุ์เขี้ยวงู ซึ่งจะมีเมล็ดเรียวยาวสวย มีความขาวสะอาด มันวาว เกาะตัวกันดี หรือถ้าต้องการนึ่งรับประทานสามารถเลือกข้าวใหม่ที่มีความหอมนุ่มกว่าได้
4.ความสะอาด ตรวจสอบดูความสะอาดของเมล็ดข้าว ไม่มีแมลง มอด เศษผงหรือสิ่งสกปรกเจือปน โดยปกติถ้าซื้อข้าวบรรจุถุงจะไม่ค่อยพบปัญหานี้เท่าใดนัก แต่ถ้าซื้อข้าวชนิดตักขาย ต้องพิจารณาถึงความสะอาดของกระสอบบรรจุถุงข้าว พื้นที่โดยรอบของแหล่งจำหน่าย เพื่อให้ได้ข้าวที่สะอาดปลอดภัย
5.สีสันของเมล็ดข้าวบ่งบอกได้ถึงอายุของข้าว ข้าวเหนียวใหม่จะมีสีขาวใสคล้ายกับข้าวจ้าว เมื่อเวลาผ่านไปจะมีสีขาวขุ่นมากขึ้น ข้าวเมื่อเก็บเป็นเวลานานจะมีสีเหลืองขุ่น เมื่อนำมานึ่งจะไม่มีความหอมนุ่มและยังมีกลิ่นเหม็นอับอีกด้วย
6.ความหอม ข้าวที่เก็บไว้ไม่เกินหนึ่งปีหลังจากเก็บเกี่ยวจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อย่างชัดเจน เมื่อเก็บไว้นานขึ้นกลิ่นหอมนั้นจะเริ่มจางหายไปและถ้าเก็บไว้นานกว่านั้นอาจจะมีกลิ่นสาบเหม็นอับ ควรตรวจดูวันผลิตก่อนตัดสินใจซื้อ
ปัจจัยเพิ่มเติมที่ต้องดูจากข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ของข้าวเหนียว
7.เปอร์เซ็นต์ข้าว ข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดคือข้าว 100% เป็นข้าวเต็มเมล็ด ไม่มีข้าวหักข้าวแตกปนอยู่ เมื่อนึ่งออกมาแล้วเมล็ดข้าวมีความเรียวยาวสวยคงรูปดีไม่เละไม่แฉะ
8.แหล่งผลิตข้าว ข้าวเหนียวบ้านเราจะปลูกมากแถบภาคเหนือและภาคอีสาน โดยแต่ละพื้นที่จะปลูกข้าวที่มีคุณภาพแตกต่างกัน อย่างเช่นข้าวเหนียวสันป่าตองจากภาคเหนือ จะมีความโดดเด่นเรื่องความเหนียว นุ่มนาน ไม่แข็ง ส่วนข้าวเหนียวจากภาคอีสานเมื่อนึ่งออกมาแล้วจะเหนียวติดกันเหมือนกาว หุงขึ้นหม้อ เมล็ดข้าวคงตัวดี
9.ความชื้น เลือกซื้อเมล็ดข้าวที่มีความแห้ง มีความร่วน ไม่แตกละเอียดเป็นผงแป้ง ไม่จับตัวเป็นก้อนเพราะความชื้น ไม่มีร่องรอยของเชื้อราในข้าว
10.มาตรฐานรับรองคุณภาพ การเลือกซื้อข้าวเหนียวบรรจุถุงควรพิจารณามาตรฐานในการผลิต วันที่ผลิต การบรรจุหีบห่อที่แน่นหนาปิดมิดชิด สามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้อย่างชัดเจน
อีกหนึ่งขั้นตอนที่ละเลยไม่ได้หลังจากเลือกซื้อข้าวเหนียวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตามที่ต้องการแล้วก็คือ วิธีการเก็บรักษาข้าวอย่างถูกวิธี การซื้อข้าวแต่ละครั้งควรซื้อในปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภคในแต่ละครั้ง ไม่ซื้อมาเก็บสต๊อกไว้นานจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ข้าวมีรสชาติเปลี่ยนไปแล้ว คุณค่าทางโภชนาการของข้าวยังลดลงอีกด้วย